มะเขือเทศเป็นพืชล้มลุกที่ให้ผลผลิตได้ยาวนานถึง 5 เดือน ดูแลง่ายเพียงตัดแต่งกิ่งแขนง ผูกมัดยึดลำต้น และเสริมแคลเซียมตามธรรมชาติ เท่านี้เราก็จะได้ผลมะเขือเทศขนาดใหญ่ เก็บผลได้นานตั้งแต่ด้านล่างสูงขึ้นไปจนสุดปลายมือของเราเลย

3 เทคนิคสำคัญ

1. ตัดแต่งกิ่งแขนง และใบแก่

มะเขือเทศเป็นพืชที่แตกกิ่งแขนงเยอะมาก ในทุกๆข้อจะมียอดใหม่แตกออกมา หากไม่ตัดแต่ง ต้นนั้นจะกลายเป็นทรงพุ่ม แต่ละกิ่งมีดอกมีผลอัดอยู่ใกล้ชิดกัน ทำให้ผลที่ได้มีขนาดเล็ก

ดังนั้น เราจะต้องแต่งกิ่งแขนงของเขาทุกๆ 3-4 วัน ตัดทุกยอดแขนงออก เหลือเพียงต้นแม่ต้นเดียวเท่านั้นที่จะชูยอดตรงขึ้นไป แบบนี้เราจะได้ผลมะเขือเทศลูกใหญ่สมบูรณ์

ใบที่งามใหญ่เกินไปจนม้วนโค้งลง ก็ให้ตัดออกครึ่งหนึ่ง รวมถึงใบที่แก่แล้ว เมื่อมะเขือเทศสูงประมาณ 1 เมตร ใบด้านล่างจะเริ่มแก่ มีสีเหลืองและลายจุดปนเล็กน้อย ให้ตัดออกทั้งใบได้เลย เปิดโคนต้นให้โล่ง แสงแดดส่องเข้าถึง จะทำให้ต้นมะเขือเทศไม่เป็นโรคง่าย

2. มัดลำต้นยึดกับเสาหลัก

ลำต้นของมะเขือเทศนั้นจะโตยาวสูงขึ้นไปเรื่อยๆ หากไม่ใช้เชือกผูกมัดกับเสาหลักยึดไว้ ต้นก็จะโค้งและเลื้อยยาวไปตามพื้น ผลผลิตที่ได้ก็จะไม่สมบูรณ์ การเก็บผลก็ทำได้ยาก

ดังนั้น เราจะต้องผูกมัดลำต้นทุกๆ 3-4 วัน ยึดให้ปลายยอดชูตั้งตรงขึ้นไปได้ ช่อดอกจะแยกออกด้านข้าง ทำให้เก็บผลง่าย รวมถึงช่อดอกที่ยาวมาก จะต้องใช้เชือกผูกรั้งก้านช่อเอาไว้ เพื่อป้องกันช่อดอกหักพับลงมา เมื่อมะเขือเทศมีขนาดผลที่ใหญ่ขึ้น

3. เสริมแคลเซียมด้วยเปลือกหอยป่น

เมื่อมะเขือเทศมีผลขนาดใหญ่ขึ้น เรามักจะพบอาการโรคก้นเน่า ซึ่งเกิดจากได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ ทำให้ผลมะเขือเทศมีรอยแตกเล็กๆ เชื้อโรคจึงเข้าไปทำให้ผลเน่าได้ โดยชาวสวนมะเขือเทศส่วนใหญ่จะต้องมีการฉีดแคลเซียมโบรอนทุกๆสัปดาห์ เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง ไม่ปริแตก

ซึ่งในการปลูกแบบธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีนั้น เราสามารถนำเปลือกหอยบดป่นซึ่งเป็นแหล่งแคลเซียมธรรมชาติมาใช้แทนได้ โดยคลุกผสมดินตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมปลูก และโรยเสริมเพิ่มเมื่อมะเขือเทศโตขึ้นมาอีก 2-3 ครั้ง จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคก้นเน่าได้

---

---

เขียนบทความโดย ครูพี่นุ (ภานุพงศ์ สะและหมัด)

• เจ้าของสวน COCONUT Thailand
• เจ้าของ ฟาร์ม ข.ไข่

สั่งซื้อเปลือกหอยป่น

• เปลือกหอยบดป่น https://www.cocosth.com/mashed-shells